หลังจากที่ผ่านมานานถึง 17 ปีเต็ม แฟรนไชส์หนังผีตลกไทยที่รู้จักกันดีอย่าง “หอแต๋วแตก” ได้กลับมาอีกครั้งด้วยการเปิดตัวภาคสุดท้ายของซีรีส์นี้ ชื่อ “หอแต๋วแตก แหกสัปะหยด” ซึ่งได้รับการประกาศว่าเป็นภาคจบจากผู้สร้าง (แม้ว่าอาจจะไม่แน่ใจว่าจะจบตอนไหนและว่าจะจบจริงหรือไม่) ภาคนี้เป็นการรวมตัวกันของสองเรื่องหนังผีไทยในตำนานที่มีชื่อเสียงมาก แม้ว่ามีบางคนรู้สึกขัดแย้งกับการผสมผสานนี้ แต่ความจริงแล้วภาคนี้มีความสนุกสนาน และน่าตื่นเต้นมากกว่าที่คาดหวัง ร่วมกันสร้างประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยความระทึกขวัญ และความฮา สำหรับผู้ชมทุกคนที่ได้เติบโตพร้อมกับซีรีส์นี้ตลอดระยะเวลานานนับหลายปี
สร้างความประหลาดใจให้กับแฟน ๆ หลายคน เพราะแม้จะยังคงความสะเปะสะปะแบบฉบับหอแต๋วแตก แต่ภาคนี้กลับใส่ใจรายละเอียดและความพิถีพิถันมากขึ้น สิ่งที่น่าชื่นชมที่สุดคือ บทหนังของภาคนี้กลับมามีเสน่ห์อีกครั้ง ถือว่าเป็นการกลับมาคืนฟอร์ม (อีกครั้ง) ของหนังผีตลกล้อเลียนที่แฟน ๆ รอคอย แฟน ๆ หอแต๋วแตกไม่ควรพลาด “หอแต๋วแตก แหกสัปะหยด” หนังภาคนี้สนุกสนาน ตลก และล้อเลียนได้อย่างชาญฉลาด ชวนให้นึกถึงบรรยากาศของภาคแรก และภาคสองในอดีตอย่างชัดเจน ภาคนี้บทหนังมีน้ำหนักและเส้นเรื่องที่ชัดเจนขึ้น เห็นได้ชัดว่ามีการลดการอิมโพรไวส์ลง มุกตลกในหนังยังคงความตลกร้ายแบบฉบับหอแต๋วแตก แต่มีการผสมผสานมุกใหม่ ๆ เข้าไปด้วย โดยรวมแล้ว “หอแต๋วแตก แหกสัปะหยด” ถือว่าเป็นภาคที่สนุกสนาน เหมาะสำหรับแฟนหนังหอแต๋วแตกและแฟนหนังผีไทย
“หอแต๋วแตก แหกสัปะหยด” อาจจะหยิบยืมพล็อตจาก “สัปเหร่อ” และ “ธี่หยด” มาผสมผสาน แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือหนังตลกชวนจี้ที่มีเอกลักษณ์ของตัวเอง หนังเรื่องนี้เข้าใจดีว่าคนดูต้องการอะไร และเสิร์ฟความบันเทิงตรงใจแฟน ๆ ได้อย่างลงตัว งานออกแบบฉากและคอสตูมยังคงความจัดจ้านและเปี่ยมไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ คงเอกลักษณ์ “งานกะเทยจริง ๆ” ที่แฟน ๆ หอแต๋วแตกคุ้นเคย เสื้อผ้าหน้าผมแต่ละชุดนั้นเปี่ยมไปด้วยสีสัน ลวดลาย และลูกเล่นที่คาดเดาไม่ได้ กลายเป็นหนึ่งในสีสันที่สร้างอารมณ์ขันให้กับตัวหนังได้อย่างดี สะท้อนความตลกร้ายแบบฉบับหอแต๋วแตก และรักษาเสน่ห์ของหนังชุดนี้ไว้ได้อย่างคงเส้นคงวา
ในจักรวาลภาพยนตร์หอแต๋วแตก จาตุรงค์ พลบูรณ์ และ โก๊ะตี๋ เจริญพร ยังคงเป็นแกนหลักที่แบกรับบทบาทเจ๊แต๋วและแพนเค้กมาอย่างยาวนาน การแสดงของทั้งคู่กลายเป็นเอกลักษณ์ที่แยกไม่ออกจากตัวละครไปแล้ว แม้ว่ากาลเวลาจะผ่านไป แต่พวกเขาก็ยังคงถ่ายทอดบทบาทได้อย่างลื่นไหลและเป็นธรรมชาติ ในภาค “แหกสัปะหยด” นี้ ผู้กำกับยังคงเปิดโอกาสให้นักแสดงทั้งสองได้อิมโพรไวส์บทกันอย่างเต็มที่ แต่ในขณะเดียวกันก็มีการควบคุมจังหวะและความเละเทะของบทให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมกับตัวหนัง ทำให้การรับส่งบทระหว่างเจ๊แต๋วและแพนเค้กยังคงสร้างความบันเทิงให้กับผู้ชมได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนักแสดงนำแล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังมีนักแสดงสมทบมากมายที่เข้ามาเสริมความสนุกสนานในแบบฉบับของผู้กำกับพชร์ อานนท์ ซึ่งเน้นความบันเทิงเต็มรูปแบบโดยไม่ต้องเจาะลึกถึงมิติตัวละครมากนัก การปรากฏตัวของนักแสดงเหล่านี้จึงเป็นการเพิ่มสีสันและความหลากหลายให้กับตัวหนัง โดยเฉพาะในภาคนี้ที่มีตัวละครจำนวนมากเป็นพิเศษ โดยรวมแล้ว การแสดงของนักแสดงในหอแต๋วแตก แหกสัปะหยด ยังคงเป็นจุดแข็งของภาพยนตร์เรื่องนี้ โดยเฉพาะการแสดงของ จาตุรงค์ และ โก๊ะตี๋ ที่ยังคงรักษาเอกลักษณ์และความสนุกสนานของตัวละครเอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น
แม้ว่าผู้สร้างจะประกาศว่าหอแต๋วแตก แหกสัปะหยดจะเป็นภาคสุดท้ายของแฟรนไชส์ แต่ผู้ชมหลายคนยังคงสงสัย เนื่องจากภาพยนตร์เรื่องก่อนๆ ก็เคยประกาศว่าจะจบลง แต่ก็ยังมีภาคต่อออกมาอย่างต่อเนื่อง หากนี่เป็นบทสรุปที่แท้จริงของหอแต๋วแตก ก็ถือว่าเป็นการปิดฉากที่รื่นเริงและบันเทิงใจ โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ได้หวนกลับไปสู่รากเหง้าของแฟรนไชส์ด้วยการผสมผสานระหว่างความตลกและความสยองขวัญอย่างลงตัว แม้ว่าภาคนี้จะลดบทบาทในการเป็น “จดหมายเหตุบ้านเมือง” ลงไปบ้าง แต่ก็ยังคงรักษาเอกลักษณ์และตัวตนของหอแต๋วแตกไว้ได้อย่างเหนียวแน่น โดยหันไปเน้นที่คุณภาพการผลิตที่ชัดเจนยิ่งขึ้น หอแต๋วแตก แหกสัปะหยด จึงเป็นการสดุดีความสำเร็จของภาพยนตร์ผีไทยที่สร้างความบันเทิงให้กับผู้ชมมาอย่างยาวนาน สูตรสำเร็จของการผสมผสานความตลกและความสยองขวัญยังคงได้ผลดีเยี่ยม แม้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้อาจจะไม่ใช่การปิดฉากที่ยิ่งใหญ่ที่สุด แต่ก็เป็นการอำลาที่น่าจดจำ และเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความยืนยาวของแฟรนไชส์หอแต๋วแตก
ใครที่ติดตามจักรวาลของหนังผีหอแต๋วแตก มาอย่างยาวนาน ก็สามารถเข้าไปรับชมในโรงภาพยนตร์ได้แล้ววันนี้ ส่วนใครที่ไม่เคยรับชมมาก่อนก็สามารถเข้าไปรับชมได้เช่นกัน จากตัวอย่างที่มีการปล่อยออกมา บอกได้เลยว่าภาคนี้ Production ยิ่งใหญ่แน่นอน และล่าสุดทางด้านรายได้ก็รู้สึกว่าเกิน 40 ล้านไปแล้วจากการฉายเพียงแค่ไม่ถึง 7 วัน