หอแต๋วแตกรวมครบสรุปจบทุกเหตุการณ์

หอแต๋วแตกมีนาคม 20, 2024

พจน์ อานนท์ ประกาศแล้วล่าสุดว่าหนังหอแต๋วแตกภาคนี้จะเป็นภาคสุดท้าย หลังจากที่เปิดฉายไปเพียงไม่กี่วันรายได้ก็ทะลุไปแล้ว 50 ล้านถือว่าเป็นรายได้ที่งดงามมากๆ กับภาพยนตร์ในจักรวาล หอแต๋วแตก ภาพยนตร์เรื่องนี้มีเอกลักษณ์อย่างหนึ่ง ก็คือ ในปีที่ภาพยนตร์ออกฉาย มักจะนำเหตุการณ์บ้านเมืองหรือสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ปรับปรุงแต่งเรื่องราว และล้อเลียนเหตุการณ์เหล่านั้นลงบนภาพยนตร์ของเขาเอง ซึ่งเราจะย้อนรอยกลับไปดูว่าที่ผ่านๆ มามีการล้อเลียนอะไรบ้าง

นาคี หนึ่งในเรื่องราวที่ถูกยกมาอยู่ในเรื่องหอแต๋วแตก

ละครไทยเรื่อง “นาคี” ที่โด่งดังอย่างล้นหลามด้วยการแสดงอันทรงพลังของ “แต้ว ณฐพร เตมีรักษ์” ในบทบาท “คำแก้ว” ได้สร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่ในวงการบันเทิงไทย ด้วยความนิยมที่ถล่มทลายจนนำไปสู่การสร้างภาพยนตร์ภาคต่ออย่าง “นาคี 2” ความสำเร็จของละครและภาพยนตร์เรื่องนี้ได้จุดประกายให้กับรายการตลกชื่อดังอย่าง “หอแต๋วแตก” ซึ่งได้นำเสนอฉากพิเศษที่นำเสนอ “แม่สิตางค์” ในเวอร์ชัน “คำแก้ว” สร้างความฮือฮาให้กับผู้ชมอย่างมาก การปรากฏตัวของ “คำแก้ว” ในหอแต๋วแตกถือเป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความน่ากลัวและความตลกขบขัน โดยนำเสนอในรูปแบบที่ไม่เหมือนใครและสร้างความบันเทิงให้กับผู้ชมได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ภาพยนตร์ “นาคี 2” ยังได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ในวงการภาพยนตร์ไทยด้วยการทำรายได้ถล่มทลายกลายเป็นภาพยนตร์ไทยที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาลอีกด้วย

คุณแพร วทานิกา แอบเข้ามาอยู่ในเรื่องด้วย

ในปี 2561 รายการเรียลลิตี้ได้เฟื่องฟูอย่างมาก โดยหนึ่งในรายการที่โดดเด่นคือ “This Is Me Vatanika” ซึ่งนำเสนอชีวิตอันหรูหราของดีไซเนอร์สาวสวย คุณแพร วทานิกา ร่วมกับ “สา” แม่บ้านส่วนตัวที่ได้รับความรักจากผู้ชมทั่วประเทศด้วยความซื่อตรงของเธอ ความโด่งดังของรายการและตัวละคร “สาจ๋า” ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับภาพยนตร์เรื่อง “หอแต๋วแตก” ภาคต่อ โดยได้นักแสดงสาว “เจนนี่ ปาหนัน” มารับบทล้อเลียนคุณแพร และได้ “สา” ตัวจริงมาร่วมแสดงในภาพยนตร์ด้วย การปรากฏตัวของ “สาจ๋า” ในภาพยนตร์เรื่อง “หอแต๋วแตก” ได้สร้างความฮือฮาและความบันเทิงให้กับผู้ชม ด้วยการนำเสนอภาพลักษณ์ของแม่บ้านจอมซื่อที่ตรงไปตรงมาและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความนิยมและอิทธิพลของรายการเรียลลิตี้ “This Is Me Vatanika” ในยุคนั้น

BNK48 เกิร์ลกรุ๊ปสาวที่เปลี่ยนไป

BNK48 วงดนตรีป๊อปไทย (T-POP) ที่โด่งดังอย่างมากในประเทศไทย โดยเฉพาะเพลง “คุกกี้เสี่ยงทาย” ที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามจนกลายเป็นกระแสเต้นท่าปั้นข้าวปั้นกันทั่วประเทศ ในโอกาสที่สมาชิกวง แพนเค้ก ประกาศจบการศึกษาหรือ “ไปเกิดใหม่” ทาง “หอแต๋วแตก แหกต่อไม่รอแล้วนะ” จึงได้จัดเซอร์ไพรส์พิเศษโดยให้สมาชิกแก๊งหอแต่งตัวเป็นสาวๆ BNK48 เพื่ออำลาแพนเค้กอย่างยิ่งใหญ่ การแต่งกายเลียนแบบ BNK48 ของแก๊งหอแต๋วแตกสร้างความฮือฮาและความประทับใจให้กับทั้งแพนเค้กและแฟนๆ BNK48 เป็นอย่างมาก แสดงให้เห็นถึงความรักและความชื่นชมที่พวกเขามีต่อวงดนตรีและสมาชิก

แน็กชาลี หนุ่มสุดเฟี้ยว

แน็ก ชาลี ดาราชายผู้แจ้งเกิดจากภาพยนตร์เรื่องแฟนฉัน กำลังอยู่ในช่วงปีทองอีกครั้ง ด้วยคอนเทนต์ที่แปลกใหม่บนโลกโซเชียลที่ใกล้ชิดกับสัตว์หลากหลายสายพันธุ์ ทำให้เขากลับมาโด่งดังเป็นพลุแตกอีกครั้ง ความโด่งดังของแน็ก ชาลี ไม่ได้หยุดอยู่แค่ในโลกออนไลน์ เพราะหอแต๋วแตกเองก็ไม่พลาดที่จะเชิญเขามาร่วมแสดงในบทบาทชายกลาง ซึ่งถือเป็นการแสดงความสามารถอีกด้านหนึ่งของแน็ก ชาลี ที่นอกเหนือจากการเป็นนักแสดงภาพยนตร์แล้ว เขายังสามารถสร้างความบันเทิงให้กับผู้ชมได้ในรูปแบบที่หลากหลาย ด้วยความสามารถที่โดดเด่นและคอนเทนต์ที่ไม่เหมือนใคร ทำให้แน็ก ชาลี กลายเป็นดาราชายที่อยู่ในช่วงปีทองอย่างแท้จริง เขาสามารถสร้างความสุขให้กับผู้ชมได้ทั้งในโลกออนไลน์และหน้าจอโทรทัศน์ และยังคงเป็นที่จับตามองในวงการบันเทิงไทยต่อไป

เจน นุ่น โบว์ มาพร้อมกันแล้วค่ะ

เพลง “Super วาเลนไทน์” ของสาวๆ เจน-นุ่น-โบว์ กลายเป็นเพลงฮิตติดหูที่ใครๆ ก็ต้องร้องตามได้ ด้วยประโยคเปิดตัวสุดฮิต “เจนค่ะ เจนค่ะ หนูชื่อเจน มากับนุ่น แล้วก็มากับโบว์” ความโด่งดังของเพลงนี้ทำให้หอแต๋วแตกหยิบยกมาล้อเลียนในฉากหนึ่ง โดยมีตัวละครในแก๊งหอแต๋วแตกแต่งตัวเลียนแบบสาวๆ เจน-นุ่น-โบว์ และร้องเพลง “Super วาเลนไทน์” เวอร์ชันของตัวเอง การล้อเลียนเพลง “Super วาเลนไทน์” ในหอแต๋วแตกสร้างความฮือฮาและเสียงหัวเราะให้กับผู้ชมเป็นอย่างมาก แสดงให้เห็นถึงความสามารถของแก๊งหอแต๋วแตกในการหยิบยกกระแสฮิตมาสร้างความบันเทิงให้กับผู้ชมได้อย่างลงตัว

ส้มหยุด หยุดโดยไม่อะไรมากั้น

ประโยคฮิตติดหูของ “แม่สิตางศุ์ บัวทอง” เน็ตไอดอลชื่อดังวัยเกือบ 60 ปี เป็นที่รู้จักจากวลีฮิต “สะบัดต่อไม่รอแล้วนะ” ซึ่งกลายเป็นตำนานในโลกออนไลน์และถูกนำไปล้อเลียนในภาพยนตร์ “หอแต๋วแตกแหกต่อไม่รอแล้วนะ” ในปี 2563 แม่สิตางศุ์ได้สร้างวลีเด็ดใหม่ “ส้มหยุด” จากการเล่าประสบการณ์หลอนในรายการ “อังคารคลุมโปง” ทางคลื่น 94 FEM ซึ่งกลายเป็นคำติดปากที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง วลี “ส้มหยุด” มีที่มาจากการที่แม่สิตางศุ์เล่าว่า เธอได้ยินเสียงส้มหล่นจากต้นในเวลากลางคืน และเมื่อเธอออกไปดูก็พบว่าไม่มีส้มหล่นอยู่จริง เธอจึงร้องว่า “ส้มหยุด” เพื่อให้เสียงหยุดลง ความฮิตของวลี “ส้มหยุด” ทำให้เกิดการนำไปใช้ในหลากหลายบริบท ทั้งในแง่บวกและแง่ลบ เช่น การใช้เพื่อหยุดการกระทำที่ไม่พึงประสงค์ หรือการใช้เพื่อแสดงความตกใจหรือแปลกใจ