หอแต๋วแตก ตามติดทุกเทรนด์ความนิยม

หอแต๋วแตกมีนาคม 22, 2024

หอแต๋วแตกกลับมาอีกครั้งกับการประกาศบทสรุปภาคสุดท้าย ถือว่าเป็นจักรวาลหนังผีแนวตลกสนุกสนานที่ฉายในประเทศไทยมายาวนานมากกว่า 17 ปี โดยเอกลักษณ์หลักของเรื่องมักจะนำเอาเหตุการณ์บ้านเมืองหรือสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปีนั้นๆ นำมาผสมผสานแล้วก็ล้อเลียนลงบนตัวภาพยนตร์ สิ่งที่ผ่านมามีการล้อเลียนเหตุการณ์อะไรบ้างไปติดตามรับชมกัน

หอแต๋วแตกตามติดทุกเทรนด์

บันทึกเหตุการณ์โชว์ศิลปะเปลือยอก จาก Thailand’s Got Talent

ในปี 2012 รายการโทรทัศน์เรียลลิตี้โชว์ “Thailand’s Got Talent” ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม โดยเฉพาะโชว์การวาดภาพเปลือยอกของผู้เข้าแขันสาวคนหนึ่ง ซึ่งกลายเป็นที่ถกเถียงกันอย่างมากถึงความเหมาะสม ความโด่งดังของโชว์นี้ทำให้ “หอแต๋วแตก” ไม่พลาดที่จะหยิบยกมาล้อเลียนในแบบฉบับของตัวเอง ในภาพยนตร์ “หอแต๋วแตก” แพนเค้ก นักแสดงตลกชื่อดัง ได้รับบทเป็น “ผีแพนเค้ก” ซึ่งเป็นการเล่นคำที่ดัดแปลงมาจาก “ผีอีแพง” ตัวละครจากละครต้นฉบับ ในฉากล้อเลียนนี้ ผีแพนเค้กปรากฏตัวในชุดเซ็กซี่และละเลงศิลปะบนผ้าใบด้วยร่างกายของเธอเอง การล้อเลียนนี้สร้างเสียงหัวเราะให้กับผู้ชม โดยเฉพาะผู้ที่คุ้นเคยกับโชว์การวาดภาพเปลือยอกจาก “Thailand’s Got Talent” เป็นอย่างดี การนำเสนอในรูปแบบภาพยนตร์ตลกช่วยเพิ่มความสนุกสนานและความจดจำให้กับโชว์ต้นฉบับได้อย่างลงตัว โดยเฉพาะการแสดงของแพนเค้กที่ทั้งเซ็กซี่และตลกในเวลาเดียวกัน ทำให้ผู้ชมอดขำไม่ได้กับความคิดสร้างสรรค์และความกล้าในการล้อเลียนของ “หอแต๋วแตก”

งานนี้ก็ไม่พบาด ตุ๊กตาบลายธ์

ตุ๊กตาบลายธ์ได้กลายเป็นปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรมที่โด่งดังอย่างมาก ตุ๊กตาหัวโตตาโตเหล่านี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยดวงตาขนาดใหญ่ที่สามารถเปลี่ยนสีได้ ซึ่งทำให้เกิดความต้องการอย่างมากในหมู่นักสะสมและผู้ที่ชื่นชอบแฟชั่น ยุครุ่งเรืองของตุ๊กตาบลายธ์นั้นโดดเด่นด้วยราคาที่พุ่งสูงจนแตะหลักแสนบาทสำหรับบางตัว และดาราเซเลบริตี้ก็ต่างพากันถือครองตุ๊กตาเหล่านี้ ไม่เว้นแม้แต่ “ชมพู่ อารยธา” ผู้ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็นเจ้าแม่ตุ๊กตาบลายธ์ในสมัยนั้น ปรากฏการณ์ตุ๊กตาบลายธ์ยังได้ปรากฏในภาพยนตร์หอแต๋วแตก ด้วยการใส่ประโยคเด็ดเกี่ยวกับตุ๊กตาเหล่านี้ระหว่างตัวละครแพนเค้กและเจ๊แต๋ว รวมถึงการแต่งกายของตัวละครที่ล้อเลียนมาจากตุ๊กตาบลายธ์ ความนิยมของตุ๊กตาบลายธ์นั้นได้สร้างอิทธิพลอย่างมากต่อวัฒนธรรมสมัยนิยม โดยสะท้อนถึงความหลงใหลในของเล่นที่ไม่เหมือนใครและความปรารถนาที่จะแสดงออกถึงเอกลักษณ์ส่วนบุคคลผ่านทางแฟชั่นและการสะสม

หนังดังเราก็ไม่ขาด แฮรี่พอตเตอร์เจ้าชายเลือดผสม

ในปี 2552 ภาพยนตร์เรื่อง “แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเจ้าชายเลือดผสม” ได้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ทั่วโลกและกลายเป็นปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรมที่โด่งดังอย่างมาก ด้วยความนิยมอันล้นหลามของแฟรนไชส์แฮร์รี่ พอตเตอร์ หอแต๋วแตกจึงได้หยิบยกเอาองค์ประกอบบางอย่างจากภาพยนตร์เรื่องนี้มาใส่ไว้ในภาพยนตร์หอแต๋วแตกแหกกระเจิงของตนเอง ฉากที่โดดเด่นที่สุดฉากหนึ่งคือฉากการดวลไม้คฑาที่ล้อเลียนมาจากฉากดวลไม้คฑาในภาพยนตร์แฮร์รี่ พอตเตอร์ โดยมีตัวละครเจ๊แต๋ว, เจ๊การ์ตูน และเจ๊มดดำ ร่วมดวลไม้คฑากับตัวร้ายในเรื่อง ฉากนี้สร้างความบันเทิงให้กับผู้ชมด้วยการนำเสนอการดวลไม้คฑาในแบบฉบับของหอแต๋วแตกที่เต็มไปด้วยความโกลาหลและเสียงหัวเราะ นอกจากนี้ ยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการล้อเลียนและเสียดสีวัฒนธรรมสมัยนิยมของภาพยนตร์หอแต๋วแตกอีกด้วย การผสมผสานองค์ประกอบจากแฮร์รี่ พอตเตอร์เข้าไว้ในหอแต๋วแตกนั้นสะท้อนให้เห็นถึงความเข้าใจของผู้สร้างภาพยนตร์เกี่ยวกับความนิยมของแฟรนไชส์และความสามารถในการนำเสนอเรื่องราวในแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง

BlackBerry มือถือยอดนิยมแห่งยุค

ในช่วงปี 2554 โทรศัพท์มือถือ BlackBerry ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในประเทศไทย โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น ด้วยฟังก์ชันการใช้งานที่โดดเด่นด้านการแชทและการรับส่งอีเมล ทำให้ BlackBerry กลายเป็นอุปกรณ์สื่อสารที่ขาดไม่ได้ในยุคนั้น ในภาพยนตร์เรื่อง “หอแต๋วแตก” ภาคหนึ่ง ได้มีการสอดแทรกมุกตลกเกี่ยวกับ BlackBerry ในฉากที่แพนเค้กได้รับของขวัญจากเจ๊แต๋วเป็นโทรศัพท์ BlackBerry ซึ่งสร้างเสียงหัวเราะให้กับผู้ชมเป็นอย่างมาก ฉากนี้สะท้อนถึงความนิยมอย่างสูงของ BlackBerry ในช่วงเวลานั้น นอกจากนี้ BlackBerry ยังมีบทบาทสำคัญในแวดวงธุรกิจและการเมือง ด้วยความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือสูง ทำให้ BlackBerry เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ของผู้บริหารและนักการเมืองในการใช้สื่อสารข้อมูลที่สำคัญ อย่างไรก็ตาม ในช่วงปีหลังๆ BlackBerry ได้สูญเสียส่วนแบ่งการตลาดให้กับสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการ Android และ iOS ทำให้ความนิยมของ BlackBerry ลดลงอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน BlackBerry ยังคงมีการผลิตและจำหน่ายโทรศัพท์มือถืออยู่ แต่ส่วนแบ่งการตลาดได้ลดน้อยลงอย่างมาก

แวมไพร์ ทไวไลท์ ผีดูดเลือดมาไทยแล้ว

แฟรนไชส์ภาพยนตร์ “แวมไพร์ ทไวไลท์” ได้กลายเป็นปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรมที่โด่งดังไปทั่วโลก ด้วยเรื่องราวความรักสามเส้าเหนือธรรมชาติระหว่างมนุษย์ แวมไพร์ และมนุษย์หมาป่า หอแต๋วแตกไม่พลาดที่จะหยิบยกความนิยมของแวมไพร์ ทไวไลท์มาล้อเลียน โดยให้ “แทค ภรัณยู” มารับบทเป็น “แท่งทอง” แวมไพร์หนุ่มรูปงามที่ต้องมาแย่งชิง “แพนเค้ก” กับฝูงมนุษย์หมาป่า ฉากที่โดดเด่นที่สุดฉากหนึ่งคือฉากที่แท่งทองปรากฏตัวในงานปาร์ตี้และสร้างความโกลาหลด้วยพลังเหนือธรรมชาติของเขา ฉากนี้สร้างเสียงหัวเราะให้กับผู้ชมด้วยการนำเสนอแวมไพร์ในแบบฉบับของหอแต๋วแตกที่เต็มไปด้วยความตลกและความเว่อร์ การผสมผสานองค์ประกอบจากแวมไพร์ ทไวไลท์เข้าไว้ในหอแต๋วแตกนั้นสะท้อนให้เห็นถึงความสามารถของผู้สร้างภาพยนตร์ในการล้อเลียนและเสียดสีวัฒนธรรมสมัยนิยม รวมถึงการนำเสนอเรื่องราวในแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง